เราได้ไปญี่ปุ่นมาสักช่วงหนึ่ง ประเทศเขาเป็นประเทศที่ทำรถขายแบรนด์ดังๆ มากมาย เช่นโตโยต้า ฮอนด้า มาสด้า ซูซุกิ อีซุซุ ๆๆๆๆ มากมาย แต่คนประเทศญี่ปุ่นจะไม่ค่อยขับรถกัน เพราะว่าการเดินทางโดยรถไฟฟ้า สะดวกมากมาย อีกทั้งยังเร็วมาก เราไปเมืองโตเกียว การออกรถของเขาต้องมีการสอบใบขับขี่หลายครั้ง และค่าใบขับขี่ก็แพงเอาควร อีกทั้งยังต้องแสดงว่า คุณต้องมีที่จอดรถด้วย ถึงจะออกรถได้ ที่ญี่ปุ่น ตลาดรถบ้านมือสอง เขาใหญ่เพราะว่าประเทศเขาส่วนใหญ่จะใช้รถกันประมาณ4ปี แล้วเปลี่ยนเพราะว่าการซื้อรถซื้อได้ราคาไม่แพง เพราะภาษีไม่แพง แต่แพง ด้านอื่นเช่น ค่าจอดรถ ค่าน้ำมันรถ ค่าทางด่วน ดังนั้นการซื้อขายรถบ้านมือสองไม่ผ่านคนกลาง เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันก้าวหน้า คนบางคนก็ใช้อินเตอร์เน็ตในการซื้อขายรถกันเอง แล้วแยกชิ้นส่วนแล้วนำมาประกอบใหม่ เพื่อที่จะประหยัดภาษีนำเข้าก็มี การที่โลกมันทีเทคโนโลยีที่ดีมันจะช่วยให้การติดต่อสื่อสารมันง่ายมากมาย แต่การที่เทคโนโลยีมันดี คนเรามันก็ต้องใช้ให้เป็นด้วย ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระเบียบวินัยมาก การที่แพ้สงครามโลก และกลับมาฟื้นได้ดังปัจจุบันมันต้องอาศัย คุณภาพของทรัพยาการมนุษย์มากมาย การเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ มันสอนให้เราที่จะเอาตัวรอด หาวิธีคิดที่ดีขึ้น อย่างเช่น ง่ายๆ ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่แผ่นดินไหวบ่อย เวลาเขาจะให้สร้างบ้านหรือสร้างตึก ตึกของเขาต้องออกแบบมาให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว อย่างน้อย 5 ริกเตอร์ ให้ได้ (อันนี้ถ้าจำไม่ผิดน่ะ) และการถอดรองเท้าเขาจะเอาหัวรองเท้าไปด้านนอกเพราะเวลาแผ่นดินไหวแล้วจะได้วิ่งใส่รองเท้าให้ทัน อันนี้เป็นเกร็ดเล็กๆ น้อย ที่ได้ยินมา ส่วนตลาดรถบ้านมือสองเขาจะทำตลาดแล้วส่งออกต่างประเทศ อย่างเช่นประเทศไทย กัมพูชา เมี่ยนม่า ลาว เป็นต้น ซึ่งประเทศที่กล่าวมายังมีความต้องการซื้อรถบ้านมือสองไม่ผ่านคนกลาง เพราะว่ามันจะทำให้ราคามันถูกกว่ามากและได้รถคุณภาพมากว่าเดิม ความเร็วของรถที่ญี่ปุ่นเราขึ้นรถทัวร์ คนขับเขาจะขับไม่เกิน90 ไมล์ต่อชั่วโมง ซืึ่งเราก็ถามไกด์ ไกด์ก็บอกว่ารถที่ขับตามท้องถนนทั่วไปที่ญี่ปุ่นกฏหมายเขากำหนดให้ขับไม่เกินนี้ ถ้าใครขับเกินนี้ โดนปรับเป็นหมื่นกว่าบาททีเดี่ยว การที่เป็นประเทศที่มีวินัยกระมัง จึงสามารถทำให้ประเทศประสบความสำเร็จ เหมือนประเทศสิงค์โปร์
homeusedcars 